นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้กล่าวว่า สืบเนื่องจากช่วงกลางเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมามีพายุฤดูร้อนเข้าสู่ประเทศไทยตอนบน โดยมีลักษณะของฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางพื้นที่ ยังความเสียหายในหลายพื้นที่เกษตรกรรม บ้านเรือนประชาชน สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ และบางพื้นที่มีประชาชนเสียชีวิต เรื่องของภัยธรรมชาติเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยากมาก และต้องยอมรับว่านับจากนี้ไปภัยธรรมชาติจะถี่และทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากภาวะโลกร้อนที่ทำให้ภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะ ซึ่งสิ่งที่ตนได้ปรับตัวและทำมาตลอดคือการปลูกต้นไม้รอบพื้นที่หมดเลย ไม้ใหญ่ ไม้เล็กเพื่อใช้เป็นแนวกันลม ต้นไม้ที่ปลูกส่วนใหญ่จะเป็นต้นไผ่ สะเดา ซึ่งถึงแม้ลมจะแรงแค่ไหนก็ไม่เคยเกิดความเสียหาย เพราะต้นไม้ที่เป็นแนวกันลมสามารถทำให้ความรุนแรงของลมลดลงไปหรือไม่ก็ข้ามไป เกษตรกรเองควรคิดในเรื่องของการทำแนวกันลมด้วยการปลูกต้นไม้ เช่น ไผ่ สะเดา รอบที่ดินตัวเองหรืออาจเป็นต้นไม้อื่นๆที่สามารถปะทะแรงลมได้ โดนลมแรงๆไม่หักโค่น ส่วนเกษตรกรที่เสียหายจากพายุฤดูร้อนที่ผ่านมา หากต้องการให้สภาเกษตรกรฯเป็นหน่วยงานกลาง ประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะมาดูแลเยียวยา สภาเกษตรกรฯ ก็พร้อมประสานให้ เพราะสภาเกษตรกรฯไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายในการเข้าไปเยียวยา และบรรเทาสาธารณภัย แต่ในฐานะที่เป็นตัวแทนเกษตรกรก็พร้อมที่จะเป็นคนกลางร่วมประสานกับส่วนราชการ เพื่อที่จะเร่งรัดให้ลงไปดูแลเยียวยา ชดเชยค่าเสียหายตามระเบียบราชการสภาเกษตรกรฯสามารถทำให้ได้ ซึ่งเกษตรกรสามารถขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดในพื้นที่ของตนเอง
ข่าว : วัฒนรินทร์ สุขีวัย
อำนวยการข่าว : ภาสันต์ นุพาสันต์