มติเห็นด้วยดันกฎหมายดูแลโคเนื้อเป็น พระราชบัญญัติ

นายวิทยา ประจันตะเสน ที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านปศุสัตว์ สภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้กล่าวว่า จากที่สภาเกษตรกรแห่งชาติมีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมกิจการโคเนื้อแห่งประเทศไทย พ.ศ….. แล้วมอบให้คณะกรรมการด้านปศุสัตว์นำไปจัดเวทีรับฟังความเห็นนั้น คณะกรรมการด้านปศุสัตว์จึงได้จัดโครงการประชุมสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็น และเพื่อชี้แจง สร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่อ “ ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมกิจการโคเนื้อแห่งประเทศไทย พ.ศ…. ” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2560 ณ โรงแรมมารวย การ์เด้น โดยการจัดประชุมสัมมนาดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมงานหลายกลุ่มอาชีพ รวมทั้งจากสมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย องค์กรส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย เป็นต้น  ความคิดเห็นจะมี 2 ลักษณะ คือ ความจำเป็นที่จะร่างกฎหมายเป็นระดับพระราชบัญญัติ กับถ้าต้องการให้ออกเป็นกฏหมายได้เร็วควรเป็นพระราชกฤษฎีกาได้หรือไม่  ซึ่งหากมองว่าจัดตั้งหน่วยงานหรือองค์กรขึ้นมาดูแลโคเนื้อและทำลักษณะโคนมออกมาเป็นพระราชกฤษฎีกาความเป็นไปได้จะง่ายกว่า  ในส่วนของเนื้อหาสาระมีการแสดงความคิดเห็นในมุมกว้างๆ อาทิเช่น ขอบเขตของกฏหมายที่อยากให้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ คือการเลี้ยง ขยายพันธุ์ ดูแลพันธุ์ รวบรวมพันธุ์ การตลาด การแปรรูป  ด้านการนำเข้าโคเพื่อการบริโภคจากต่างประเทศควรเป็นระดับตลาดทั่วไป กับให้รวมถึงโคนม แพะ แกะ และกระบือ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าควรครอบคลุมถึงการปศุสัตว์ การพัฒนาโคเนื้อให้สมบูรณ์ควรมีเครื่องมือในการพัฒนา เช่น คณะกรรมการวางยุทธศาสตร์ หรือหน่วยงานที่ดูแล ส่งเสริม สนับสนุนโดยเป็นหน่วยงานที่นำนโยบายหรือองค์ความรู้ที่กรมปศุสัตว์มีอยู่นำมาดูแลเกษตรกรกันเอง โคเนื้อที่ใช้เพื่อการบริโภคมีระดับตลาดทั่วไปและตลาดระดับราคาสูงเห็นควรมีกองทุนรักษาเสถียรภาพ เพื่อดูแลความมั่นคงรวมทั้งความเสียหายด้วย โดยสรุปเบื้องต้นผู้เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นมีมติร่วมกันว่าควรออกกฎหมายมาในชั้นระดับพระราชบัญญัติ และขั้นตอนต่อไปคือเสนอสภาเกษตรกรแห่งชาติเพื่อรับทราบแล้วดำเนินการเสนอไปทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งนายพรศักดิ์ เจียรณัย  โฆษกคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาผลผลิตทางการเกษตร รับว่าหากเสนอจะประสานในการดำเนินการตามขั้นตอนให้

……………………………………………………………………

ข่าว/ภาพ : วัฒนรินทร์ สุขีวัย

อำนวยการข่าว : ภาสันต์ นุพาสันต์