นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวถึงการประกาศเจตนารมณ์และเป็นพยานในการบันทึกความร่วมมือ(MOU)ด้านการจัดการตลาดสินค้าเกษตรไทย-จีน ระหว่าง สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ โดย นายรัตนะ สวามีชัย เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ กับ บริษัท Xishuangbanna Yijiade Comercial Trading Co.,Ltd โดย Mr.Zhou Hong biang ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอริช เนเจอร์ จำกัด โดย ดร.ภูวัสสโรดม แสงแก้ว ประธานกรรมการบริหาร และ บริษัท ส้มทอง จำกัด โดย นายทินกฤต ชีวินวรกุล ประธานกรรมการบริหาร และการลงนามทำการค้าขายผลผลิตและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ระหว่าง บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีตราด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด โดย นายสว่าง ชื่นอารมย์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดตราด และ ประธานกรรมการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีตราด(วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด และบริษัท Xishuangbanna Yijiade Comercial Trading Co.,Ltd โดย Mr.Zhou Hong biang ประธานกรรมการบริหาร ณ โรงเรียนภาษาจีนซิงหัว ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ว่า นับเป็นโอกาสดีที่สภาเกษตรกรแห่งชาติมีพันธมิตรที่คิดอยากจะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรไทยให้ก้าวผ่านสถานการณ์โควิด-19 เพราะภาคการเกษตรได้รับผลกระทบเรื่องการส่งออกไปตลาดต่างประเทศเป็นอย่างมาก การประกาศเจตนารมณ์และเป็นพยานในการบันทึกความร่วมมือดังกล่าว เกษตรกรจะได้ใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ดีและยกระดับให้สูงขึ้น พร้อมทั้งได้ช่องทางในการส่งออกที่ดี เป็นธรรม ซึ่งระบบขนส่งทางรางจะช่วยประหยัดต้นทุน สะดวกที่สุดกับเกษตรกรไทย ซึ่งคาดหวังว่าเกษตรกรไทยจะใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาด เช่น ทุกรายต้องได้ GAP ต้องตรวจคุณภาพสินค้าให้ปราศจากสารปนเปื้อน โดยเกษตรกรที่มีความพร้อมมีผลผลิต เช่น ผลไม้ หรือ พืชผลเกษตรคุณภาพดีและต้องการที่จะส่งออกไปตลาดต่างประเทศ ซึ่งสภาเกษตรกรฯจะเริ่มจากเกษตรกรเครือข่ายที่มีความพร้อมก่อน เช่น มี GAP GMP ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่พร้อมสภาเกษตรกรฯจะช่วยประสานส่วนราชการให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าสู่กระบวนการเพื่อตรวจและให้ได้การรับรองให้เร็วที่สุดก่อนจะนำไปสู่การส่งออกผลผลิตต่อไป ซึ่งจากที่ได้หารือร่วมกันผลผลิตที่มีความพร้อมเพื่อส่งออกมากที่สุด คือ ทุเรียน มังคุด เพราะเกษตรกรในเครือข่ายปลูกจำนวนเยอะและมีความพยายามเพื่อส่งออกบ้างแล้วแต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ ครั้งนี้จึงคาดหวังว่าผลผลิตจะนำส่งออกได้เนื่องจากบริษัททางจีนมีศักยภาพมากพอที่จะผลักดันสินค้าไทยให้ผ่านมาตรการต่างๆได้
“ หากเกษตรกรมีความพร้อม มีผลไม้หรือพืชผลเกษตรที่มีคุณภาพดีต้องการผลักดันไปตลาดเพื่อส่งออก ขอให้ประสานไปที่สภาเกษตรกรทุกจังหวัด สภาฯจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่ แล้วจะนำเสนอไปยังกลุ่มผู้ค้าของประเทศจีน เพื่อทำการตรวจสอบสภาพสินค้าและผลักดันผลผลิต ผลิตภัณฑ์ให้พี่น้องเกษตรกรไทยได้ประโยชน์สูงสุดต่อไป ” นายประพัฒน์ กล่าว
ด้าน Mr.Zhou Hong biang ประธานกรรมการบริหาร บริษัท Xishuangbanna Yijiade Comercial Trading Co.,Ltd กล่าวว่า สถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นในประเทศจีนทำให้ประชากรมีความต้องการบริโภคสินค้าเยอะและตอนนี้ต้องการนำเข้าจากต่างประเทศพอสมควร โดยขั้นตอนคือทำหนังสือขออนุญาตไปทางประเทศจีน เมื่อเปิดด่านเต็มที่ก็สามารถดำเนินการได้เลย สินค้าที่ทางประเทศจีนต้องการนำเข้าเริ่มต้นจากผลไม้ ได้แก่ ทุเรียน มังคุด ลำไย สับปะรด รวมทั้งปศุสัตว์ ไม้ ผลิตภัณฑ์ไม้ และจะรับซื้อทั้งหมด รอบแรกที่จะนำเข้าผ่านขนส่งระบบรางประมาณเดือนมีนาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ติดปัญหาเรื่อง QR Code ที่ลิงก์ระหว่างสองประเทศยังไม่ตรงกัน ต้องทำการปรับเล็กน้อย ขณะที่คำแนะนำถึงเกษตรกรหรือผู้ประกอบการไทย คือ ขอให้เน้น 1.คุณภาพสินค้า 2.ตรวจสอบแหล่งที่มา 3.การป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ขณะที่ นายสว่าง ชื่นอารมย์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดตราด และ ประธานกรรมการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีตราด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ได้กล่าวว่า บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีนั้นมี 77 จังหวัดทั่วประเทศ รัฐบาลเป็นผู้ก่อตั้ง และประสานงานกันทั้งหมด ซึ่งตามที่ทางบริษัทประเทศจีนได้กล่าวถึงเรื่องของคุณภาพสินค้า แหล่งที่มา รวมทั้งการตรวจสอบการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ก็ตาม จากนี้ไปจะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับผู้ประกอบการเพื่อจัดทำล้ง(โรงรับซื้อ)ในระบบปิด เพื่อไม่ให้เกิดการเคลื่อนย้ายเป็นการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ง่ายต่อการควบคุมสินค้าและรวบรวม ซึ่งบริษัทประชารัฐรักสามัคคี 77 จังหวัด จะรวบรวมสินค้าตามที่ทางประเทศจีนต้องการ รวมทั้งนำเสนอสินค้าอื่นๆต่อไปด้วย
………………………………………………
ข่าว : วัฒนรินทร์ สุขีวัย
ภาพ : สมชาย มารศรี
อำนวยการข่าว : อภิวัฒน์ มีลาภ