ข่าวประชาสัมพันธ์ประจำสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564
สภาเกษตรกรจังหวัดอุตรดิตถ์หนุนเกษตรกรขายผลิตภัณฑ์เกษตรภายใต้สถานการณ์โควิด
นายบัญชา อรุณเขต ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ที่ขยายลุกลามไปทั่วส่งผลกระทบและความความเดือดร้อนอย่างหลากหลาย ด้านเกษตรกรเกิดปัญหาสินค้าล้นตลาดและขาดรายได้ในการลงทุนและดำเนินชีวิต สถานการณ์ดังกล่าวสภาเกษตรกรแห่งชาติได้สนับสนุนให้สภาเกษตรกรจังหวัดเข้าช่วยเหลือเกษตรกรและหาช่องทางทำการตลาดเพื่อเกษตรกรจะได้ขายผลผลิตและผลิตภัณฑ์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน สภาเกษตรกรจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ผลผลิตจากพื้นถิ่นของจังหวัดอุตรดิตถ์ ด้วยวิธีถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live สภาเกษตรกรจังหวัดอุตรดิตถ์ หรือการแนะนำจำหน่ายแบบออนไลน์ รวมทั้งการขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาด้านการตลาดสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัยภายใต้ชื่อ “ตลาดพืชผัก อาหารปลอดภัย จังหวัดอุตรดิตถ์” ด้วย นางนิตยา แก้วคอน เจ้าของผลิตภัณฑ์แบรนด์ “กล้วยพรจากแม่” 1 ในเกษตรกรที่สภาเกษตรกรจังหวัดอุตรดิตถ์ลงพื้นที่สำรวจ จำหน่ายกล้วยอบหนึบ , กล้วยอัดธัญพืช , กล้วยดิบอบแห้งบดผงชงดื่ม , น้ำส้มสายชูกล้วย , หัวปลีอบแห้ง และล่าสุด “Flowsomm โฟลวซั่ม” ชาหัวปลี อุดมไปด้วยแคลเซียม โปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี เบต้าแคโรทีน เหมาะกับผู้ที่รักในสุขภาพ และเมื่อบริโภคเป็นประจำจะช่วยเรื่องโรคกระเพาะอาหารอักเสบ แก้ท้องอืด แผลในช่องปาก อาการร้อนใน ลดน้ำตาลในเลือด บำรุงเลือด แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีคอลลาเจน บำรุงผิวพรรณให้นวลเนียนมีน้ำมีนวลอีกด้วย สนใจชมและสนับสนุนหรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่ www.facebook.com/PhornJakMaeBanana นางนิตยา แก้วคอน หมายเลขโทรศัพท์ 08 1962 8330 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดอุตรดิตถ์ หมายเลขโทรศัพท์ 0 5540 7427
สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติประกาศแนวทางการปฏิบัติงานพนักงานและเจ้าหน้าที่ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019
เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2564 สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติได้ประกาศแนวทางปฏิบัติงานพนักงานและเจ้าหน้าที่ในสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติและสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้ถือปฏิบัติดังต่อไปนี้ ให้พนักงานและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่บ้านหรือ work from home ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และให้ปฏิบัติตามแผนบริหารองค์กรได้อย่างต่อเนื่อง , จัดลำดับความสำคัญโดยคำนึงถึงผู้ปฏิบัติงานที่ต้องใช้บริการขนส่งสาธารณะเดินทางไปกลับระหว่างสถานที่ทำงานและสถานที่พักอาศัย และเดินทางกลับจากต่างจังหวัดซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือมีปัญหาด้านสุขภาพ หรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงเป็นอันดับแรกเพื่อลดอัตราเสี่ยง รวมทั้งพิจารณาให้มีการเหลื่อมเวลาการมาปฏิบัติงาน , สำหรับผู้ที่มีเหตุสงสัยว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงให้พิจารณาปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง และให้เฝ้าดูอาการอย่างน้อย 14 วัน , การจัดประชุมหรือสัมมนาให้ปรับรูปแบบการดำเนินกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์แทน , พิจารณากิจกรรมที่ต้องการเดินทางและลงพื้นที่ ขอให้ปรับแผนการทำงานเพื่อลดความเสี่ยงจากการเดินทาง การออกนอกพื้นที่ตั้งสำนักงานและการออกนอกพื้นที่จังหวัด รวมทั้งให้ถือปฏิบัติตามแนวทางประกาศของรัฐบาลหรือกระทรวงสาธารณสุขที่มีหรือที่จะมีต่อไปโดยเคร่งครัดด้วย
……………………………………….