นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า ปัญหาปวดใจของพี่น้องเกษตรกรที่สภาเกษตรกรฯสะท้อนขึ้นมาเพื่อให้ภาครัฐจัดการบริหารและแก้ไขให้ตรงจุดมากที่สุด ซึ่งยืดเยื้อยาวนานและเป็นปัญหามาตลอดชีวิตของเกษตรกรคือที่ดินทำกินไม่มีความมั่นคงในการถือครอง ในพื้นที่ชนบทห่างไกลการบริการของภาครัฐเข้าไม่ถึง ด้วยอ้างเหตุผลว่าขาดงบประมาณ ขาดกำลังพล ผลพวงของนโยบายต่างๆจึงไปไม่ถึงเกษตรกร ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ โครงการความช่วยเหลือต่างๆจากภาครัฐมักประกาศว่าที่ดินต้องมีเอกสารสิทธิ์ การบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ดูถึงข้อเท็จจริงว่าเกษตรกรเจตนาเพียงแค่ประกอบการยังชีพไม่ได้มีเจตนาบุกรุกหรือเข้าไปทำลายทรัพย์สิน และแต่ละรายมีพื้นที่ทำกินประมาณ คนละ 5-20 ไร่ รัฐควรผ่อนปรนและละเว้น การบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศไทยนั้นปัจจุบันมีกฎหมายหลายฉบับมาก แต่ไม่เป็นเอกภาพและไม่มีกรอบแนวทางในการกำหนดแนวทางการพัฒนา ภารกิจ รวมถึงการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หากไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ปัญหาความเหลื่อมล้ำก็ยังคงอยู่และจะลุกลามรุนแรงต่อไปและมากขึ้น เมื่อครั้งการประชุมสภาเกษตรกรแห่งชาติครั้งที่ 7/2562 ณ ห้องบุหลันพิทักษ์พล อาคารสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กทม. ในการประชุมได้มีการบรรยาย “ความรู้กฎหมายและนโยบายที่ดินที่เกี่ยวข้องกับนโยบายที่ดินแห่งชาติ” โดย ผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ ผู้ประสานงานการศึกษานโยบายที่ดิน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(สกสว.) ทำให้ทราบว่าภายใต้กฎหมายพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ.2562 คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) จะทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง โดยการบูรณาการการกระจายอำนาจ การมีส่วนร่วมของประชาชน ชุมชน และภูมิสังคม ซึ่งจะทำให้การบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัดมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุด สมดุล เป็นธรรม ยั่งยืน และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้
ผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ ผู้ประสานงานการศึกษานโยบายที่ดิน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้กล่าวเสริมว่า คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) จะคอยบูรณาการงานต่างๆที่เกี่ยวกับที่ดินทั้งหมดไว้ในที่เดียวกันการที่มีทิศทางแน่นอนมันจะทำให้ในอนาคตการบริหารจัดการที่ดินของประเทศเป็นไปในรูปแบบเดียวกัน มีทิศทางแน่นอน มีเป้าหมายเดียวกัน ทั้งนี้ ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยใช้ที่ดินควรต้องได้รับการแก้ไขปัญหา ปัญหาที่มีอยู่ถ้าส่งผ่านไปที่ คทช.ก็จะเป็นกลไกหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้
“ คนส่วนใหญ่ของประเทศทั่วทุกจังหวัด เดือดร้อนสามารถส่งปัญหาให้กับสภาเกษตรกรฯสะท้อนปัญหาขึ้นมาให้ภาครัฐ อย่างน้อยที่สุดก็จะมีทิศทางตอบสนองต่อปัญหา แทนที่จะให้ คทช.พิจารณาไปโดยไม่มีฐานข้อมูล ไม่มีจุดร่วมของการตัดสินใจ ถ้าระบุปัญหาชัดเจนและไม่เข้าข้างตัวเองก็จะเป็นเรื่องที่ คทช.พิจารณาแก้ไขปัญหาในภาพรวมกับสาธารณะ เพราะนอกจากแก้ไขปัญหาให้ภาคเกษตรกรแล้วภาคส่วนอื่นความต้องการเหล่านี้จะต้องเป็นที่ยอมรับได้ด้วย ” ผศ.อิทธิพล กล่าว
…………………………………………………………..
ข่าว : วัฒนรินทร์ สุขีวัย
ภาพ : วัชร มีแสงเงิน
วีดีโอ : สมชาย มารศรี
อำนวยการข่าว : ภาสันต์ นุพาสันต์