นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับพิษภัยอันตรายจากการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช ๓ ชนิด ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเสต เห็นว่าเป็นสารเคมีที่มีอันตรายร้ายแรงต่อเกษตรกร และผู้บริโภค รวมถึงประชาชนทั่วไป โดยพาราควอตมีฤทธิ์กัดผิวผนังและเนื้อเยื่อส่งผลทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย สามารถก่อให้เกิดพิษเฉียบพลันถึงขั้นไตวาย ตับวาย ปอดวาย และเสียชีวิต โดยยังไม่มียาถอนพิษ ขณะนี้มี ๔๗ ประเทศทั่วโลกยกเลิกการใช้แล้ว ส่วนคลอร์ไพริฟอส ซึ่งใช้ในการกำจัดแมลงศัตรูพืช รวมถึงการใช้ในบ้านเรือนเพื่อกำจัดมด ปลวก เห็บ แมลงสาบ จะก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ วิงเวียนอ่อนเพลีย กล้ามเนื้อหดตัว แน่นหน้าอก อาเจียน ท้องเสีย จนถึงขั้นหมดสติและหยุดหายใจ รวมทั้งมีผลทำให้เกิดความผิดปกติด้านการพัฒนาสมอง ทำให้ไอคิวเด็กลดลง สมาธิสั้น หลายประเทศห้ามใช้ในบ้านเรือน ผักและผลไม้ สำหรับไกลโฟเสต จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อดีเอ็นเออันเป็นสาเหตุของการกลายพันธุ์ เป็นอันตรายต่อเซลสืบพันธุ์และการพัฒนาของตัวอ่อน สถาบันวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศ องค์การอนามัยโลก ระบุเป็นสารที่น่าจะก่อให้เกิดมะเร็ง นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ความหลากหลายของสัตว์และสมดุลในธรรมชาติสูญเสียไป สำหรับเมืองไทยล่าสุดคณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช ที่มีความเสี่ยงสูง ในคราวการประชุม ครั้งที่ ๔/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๐ ณ กระทรวงสาธารณสุข ที่ได้มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกการใช้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอส ภายในสิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๒ และให้จำกัดการใช้ไกลโฟเสตอย่างเข้มงวด
สภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้ประชุมพิจารณาหารือเรื่องดังกล่าวในการประชุม ครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2560 และมีมติขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เร่งพิจารณาศึกษาหาสารทดแทนและยกเลิกการผลิต นำเข้า และการใช้สารเคมีอันตรายทั้ง ๓ ชนิด โดยเร็ว