ข่าวประชาสัมพันธ์ประจำสัปดาห์วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2564
สภาเกษตรกรแห่งชาติห่วงปัญหา “ผัก-ผลไม้จีน” หลังเส้นทางโลจิสติกส์เปิดสะดวกมากขึ้น
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า สภาเกษตรฯมีความเป็นห่วงถึงปัญหาการทะลักเข้ามาของสินค้าเกษตรโดยเฉพาะ “ผักและผลไม้จากจีน” หลังจากเส้นทางโลจิสติกส์เปิดกว้างสะดวกมากขึ้น ทำให้สินค้าจีนสามารถส่งผ่านเข้ามาขายในประเทศไทยได้ง่ายขึ้น ใช้เวลา 1 วัน และเดินทางข้ามพรมแดน 1 ชม. มาขายในตลาดไทส่งผลกระทบต่อเกษตรกรไทย ทั้งนี้ สินค้าเกษตรจีนมีความได้เปรียบทั้งด้านต้นทุนและการผลิต พื้นที่ปลูกสภาพอากาศดียิ่งกว่าเมืองหนาวของไทย สินค้าผัก-ผลไม้เมืองหนาวไทยยากจะแข่งขันกับจีนได้ เพราะรัฐบาลไทยไม่มีการตั้งรับเลย จึงมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ 1) รัฐบาลต้องตั้งการ์ดดูแลตรวจสอบการนำเข้าสินค้าเกษตรเพื่อให้ได้มาตรฐาน 2) เกษตรกรต้องปรับตัว ปรับการผลิตสินค้าเกษตร อย่าผลิตสินค้าที่จีนผลิตได้จำนวนมาก โดยเกษตรกรไทยต้องปรับไปปลูกพืชเกษตรผสมผสาน เลี้ยงปศุสัตว์สร้างมูลค่าเพิ่ม หรือการปรับเปลี่ยนไปปลูกไม้ยืนต้นมูลค่าสูง ซึ่งจะส่งผลดีระยะยาว 3) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 1% ต่อปี เพื่อให้เกษตรกรกู้ยืมในการลงทุนเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต 4) มาตรการเยียวยาผลกระทบต่อผู้ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งในกรณีสินค้าผักอาจไม่เหมาะที่จะใช้ประกันรายได้เพราะเป็นพืชอายุสั้นแต่มีความอ่อนไหวสูงมาก คำนวณส่วนต่างเรื่องราคายาก จึงควรปรับเป็นการจ่ายเยียวยาความเสียหายดีกว่า